วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2556

ขอบคุณชีวิตที่ยุ่งยาก ตอนที่ ๑ - กำเนิดนักล่าสมบัติ

เคยคิดไหมหล่ะว่า ทำไมชีวิตฉันถึงยุ่งยากนัก ทำไมถึงมีอุปสรรคเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน ทำไมไอ้โน่นไอ้นั่นไอ้นี่ จึงไม่น่ารัก ไม่น่าพอใจ ทำไมฉันจึงต้องเกิดมาในครอบครัวที่วุ่นวาย ทำไมพ่อแม่ญาติพี่น้อง หรือลูกหลานของฉันถึงเป็นอย่างนี้ ทำไมงานการจึงตะกุกตะกัก เงินเดือนไม่เคยพอใช้ หนี้สินพะรุงพะรัง ทั้งที่ก็ใช้จ่ายอย่างกระเหม็ดกระแหม่ บางทีคนที่เรารักก็เจ็บป่วย หรือกระทั่งจากไป สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้เราอย่างหนักหน่วง ทำไมถึงไม่มีแฟนสักที ทำไมการมีแฟนมันถึงยากเย็นนัก ครั้นพอมีแฟนแล้ว พ่อแฟนตัวดี ก็ดีแตก สมัยจีบกันใหม่ ๆ อย่างหนึ่ง นานไปก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง บางทีความทุกข์ก็ถาโถมเข้ามาทีละมาก ๆ รับกันไม่หวาดไม่ไหว บางทีธุรกิจทำมาดี ๆ ก็เจ๊งเอาดื้อ ๆ เจ๊งอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ ชีวิตมีแต่คำถามว่า "ทำไม"

ข้าพเจ้าก็เป็นคนหนึ่ง ครับ ที่ชีวิตมีแต่คำถาม เพราะชีวิตก็ยุ่งยากซับซ้อนซ่อนเงื่อน น้ำเน่าเสียยิ่งกว่าละครช่องเจ็ด หากเอาไปทำหนัง ก็คงได้รางวัลลูกป๋องแป๋ง (โลก) ทองคำ อย่างไม่ต้องสงสัย

ข้าพเจ้านั้นมีโอกาสยิ่งกว่าใคร ๆ อีกหลายแสนคน เกิดในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง สามารถลงทุนทำกิจการมูลค่านับสิบล้านได้อย่างสบาย ๆ ขณะที่บางคนมีเงินลงทุนเริ่มต้นในธุรกิจเดียวกับที่ข้าพเจ้าเคยทำ เพียงสองแสนห้า บัดนี้เขากลายเป็นดาวค้่างฟ้าไปแล้ว ด้วยเงินที่ข้าพเจ้าเป็นคนเจียดให้เขาไปเอง

มิใช่จะยกหางตัวเองหรอก เพียงจะบรรยายให้เห็นภาพ อันข้าพเจ้านั้น ถึงพร้อมด้วยสรรพวิชาความรู้ทางโลก ความเพียร ความอุตสาหะ แถมท้ายด้วยวิชามาร <---ไม่ต้องบอกก็ได้ม๊างค๊าบ ความคิดจะเป็นซาราริมัง หรือมนุษย์เงินเดือน ไม่เคยอยู่ในหัวขมอง ครับ ด้วยความเป็นอยู่ ที่แวดล้อมไปด้วยความเป็นเจ้าของกิจการ และการลงทุน มาแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน หรือเพื่อนฝูง

ความเป็นเจ้าของกิจการ หรืออองเทอเพรอเนอชิพ (Entrepreneurship) นี่ มันเรียนกันไม่ได้นะ ครับ มันฝังอยู่ในโครโมโซม เจเนติก ฝังอยู่ในสายเลือด ที่บางคนเรียกภาษาสวยหรูว่า วิชั่น (vision) หรือวิสัยทัศน์ คุณพ่อคุณแม่หลายท่านคิดว่า ส่งลูกเรียนบริหารธุรกิจแล้ว จบมามันจะได้เป็นเจ้าของกิจการ มันไม่ใช่แค่นั้น ครับ

แต่มีไป ก็เท่านั้น ครับ เจ้าความเป็นเจ้าของกิจการ ไม่เห็นมันจะช่วยให้ประสบความสำเร็จในชีวิตอะไรได้

อะไรเล่า เป็นคอร์ เป็นแก่นของความสำเร็จในการทำธุรกิจ?

อะไรเล่า ที่ข้าพเจ้าไม่มี?

อะไรเล่าที่ขาดหายไป?

วิศวกรที่เขาว่าเก่งนักเก่งหนา ลองเอาบาลานซ์ชีท (Balance sheet) หรืองบดุลไปให้เขาดูสิ เขาดูรู้เรื่องไหม เขาสามารถวิเคราะห์สถานะทางการเงินของบริษัทนั้นได้หรือไม่ หรือนักบัญชีที่เก่งกาจ ลองถามเขาสิว่า รู้จักลามิน่าโฟล (Lamina flow) รูปแบบการไหลหนึ่งของของไหล (fluid) หรือเปล่า หรือนักการเงินมือฉกาจ เขาจะรู้ไหมว่า สกีมสีเฮกแซ่ด (Hexads scheme of color) หน้าตาเป็นอย่างไร มีสีอะไรบ้าง หรือสถาปนิกมือโปร เขาจะรู้ไหมว่า อัตราดอกเบี้ยแท้จริง หรือ เอฟเฟ็คทีฟเรทของดอกเบี้ย (err) ที่เขาผ่อนบ้านอยู่ หรือ มูลค่าปัจจุบัน พรีเซ้นท์แวลู (Present Value) ของรถที่เขาจะผ่อน เป็นมูลค่าเท่าไหร่

ข้าพเจ้าสามารถระเบิดพลังเป็นซุปเปอร์ไซย่าสาม ตอบปัญหาข้างต้นได้ทั้งหมด ครับ <---อีโก้เยอะน่าดู แต่ทำไมถึงจอดไม่ต้องแจว ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอดงั้นสิ?

ทำไมบางคนรู้แค่วิธีทอดกล้วย หรือทอดไก่ให้อร่อย ก็รวยได้ ประสบความสำเร็จในชีวิตได้

มันต้องมีกระไรมากกว่าสิ่งที่อยู่ในตำราเรียน ประสบการณ์ หรือเกินความเป็นเจ้าของกิจการสิ

กระทั่งแม่ค้าขายขนม ในโรงอาหารของโรงเรียนสมัยประถม เขาก็ส่งลูกเรียนจนจบปริญญาโทจากนอก ถึงสองคน เขาไม่มีทางรู้จักลาปาซทรานซ์ฟอร์มเป็นแน่แท้ ข้าพเจ้าสามารถหลับตาจับกสิณฟูริเยร์ซีรี่ย์ได้ ไหงไม่มีปัญญาแม้จะส่งตัวเองเรียน

สิ่งที่เหนือเมฆ เหนือบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียร์ขึ้นไป ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า "ความเฮง" ครับ

"เก่ง" ต้องบวก "เฮง" ไม่งั้นก็เป็นได้แค่โปรเฟสเซอร์สอนนักศึกษาในมหาลัย หรือผู้เชี่ยวชาญพิเศษในแขนงวิชานั้น ๆ

แม้วเอ้ย!!!... ทำไมแม่ค้ากล้วยทอดหน้าบ้าน เขาถูกหวยแทบทุกงวด ส่วนข้าพเจ้าซื้อเมื่อไหร่เป็นถูกหวยแดกเมื่อนั้น ไม่เฮงบ้างก็แล้วไป

ความเฮงนั้น ล่าสุดฝรั่งเขาก็เอาไปใส่ไว้่ในตำราเรียนวิชาบริหารธุรกิจแล้ว ครับ เขายอบรับว่า ความเฮง มันมีพลังอย่างเหลือเชื่อ เกินกว่าที่ความเก่งจากตำราเรียนจะสามารถบันดาลให้เป็นไปได้ ต่อให้เฮงอย่างเดียว ไม่ต้องเก่ง ก็มีทรัพย์นับแสน(ล้าน)ได้

มีโปรแกรมเมอร์เป็นแสนคน ครับ ที่สามารถสร้างโปรแกรมปฏิบัติการ อย่างไมโครซอฟต์วินโดว์ หรือ โปรแกรมฐานข้อมูล อย่าง ดีเบส ทู (dBase II) แต่เหตุใด ตาบิล เกตต์ ถึงมีทรัพย์สินล้นฟ้าอยู่คนเดียว เขาพยายามจะอธิบายความสำเร็จของตาบิล เกตต์ ออกมาเป็นเรื่องวิสัยทัศน์บ้าง การประดิษฐ์คิดค้นบ้าง ความเป็นอัจฉริยะบ้าง แต่รับรองครับ ไม่มีเหตุปัจจัยใด เกิน "ความเฮง" ของเขา

บ๊ะ... แล้วความเฮง มันทำกันได้ไหมล่ะ ภาษาไทยแปลว่า "โชค" หรือ "โชคช่วย" เกิดโชคมันสร้างกันได้ เขาคงไม่เรียกว่า โชค กระมัง

ข้าพเจ้าก็ยอมรับในความจริงอันนี้ ครับ จึงก้มหน้าก้มตาทำงานไปอย่างทรหดอดทน ไม่เคยคิดหวัง ความเฮงใดจักปรากฏแก่ข้าพเจ้า

แต่เด็กมา ข้าพเจ้ามีความเชื่อประหลาดอันหนึ่ง ครับ ข้าพเจ้าเคยจินตนาการไปว่า คงจะมีวิทยายุทธ์กระไรบางอย่าง ซ่อนอยู่ในแวดวงผ้าเหลือง แต่อดีตมา สถาบันกษัตริย์ มักข้องแวะกับสถาบันศาสนา (โดยเฉพาะศาสนาพุทธ) อย่างแน่นแฟ้น ดูนายสิน หรือนายด้วงสิ เป็นสามัญชน บุคคลธรรมดาเสียภาษีอยู่ดี ๆ พอได้บวชแล้ว ไม่นานก็ได้ปราบดา หยุ่น ขึ้นเป็นกษัตริย์ เป็นพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช อ๊ะ... หรือจะมีตำราพิชัยสงครามซุนวู เวอร์ชั่นสยามเมืองยิ้ม ตกทอดกันมาแต่ยุคโบราณกาล โดยซุกซ่อนไว้ ให้บุคคลในวงการผ้าเหลือง เป็นผู้เก็บรักษา (เหมือนมีองค์กรลับไพเออร์รี่ออฟไซออน ปิดความที่โซเฟียเป็นลูกหลานของพระเยซูในดาวินชี่โค้ด) เพราะการเป็นกษัตริย์ มิใช่เป็นกันง่าย ๆ ประเทศไทยก็มิใช่เล็ก ๆ จริงมะ

เช่นนั้นแล ข้าพเจ้าจึงสนใจวงการผ้าเหลืองเป็นพิเศษ สักวัน ข้าพเจ้าจะต้องเข้าไปพิสูจน์สมมุติฐานของข้าพเจ้าให้ได้

ข้าพเจ้าก็เหมือนใครอีกหลายคนนั่นแล ไม่เจอทุกข์ ก็คงไม่แสวงหาธรรม ไม่เคยว่างเข้าวัด ไม่สุดลิ่มทิ่มประตูจริง ๆ ก็คงไม่บวช ขอใช้ชีวิตโลก ๆ ที่แสนรื่นเริงในกามคุณ ๕ ให้หนำใจเสียก่อน

ชีวิตมันกลับเหมือนใยแมงมุม หรือตาข่ายดักปลา ครับ ยิ่งดิ้นก็ยิ่งรัดแน่น ยิ่งดิ้นยิ่งทุกข์ ข้ามอุปสรรคนี้ไปได้ อุปสรรคขั้นกว่า ก็ถาโถมเข้ามา พ้นขั้นกว่าไปได้ ความวิปโยคขั้นสูงสุดก็โหมทับ

มีนักเจริญวิปัสสนามากว่า ๒๐ ปี ท่านหนึ่ง ครับ เป็นฆราวาส มีอายุแล้ว พยากรณ์ไว้เมื่อราวปี ๔๘ (ข้าพเจ้าบวชเมื่อปี ๔๙) ว่า ข้าพเจ้ากำลังเดินมาถึงทางแยกของชีวิต ถ้าเลือกเป็นฆราวาส จะถึงแก่ความร่ำรวย หรือถ้าเลือกบวช อาจไม่มีโอกาสได้สวมชุดฆราวาสอีก

มองย้อนกลับไปในอดีต (อุ้ย... แก่แล้่วสิตรู ชอบเล่าความหลัง) มันเป็นจริงตามที่คำพยากรณ์ทีเดียว ครับ ตอนที่ท่านพยากรณ์นั้น ชีวิตข้าพเจ้ายังเมามันอยู่ในแสงสีอยู่เลย ครับ ไม่มีวี่แววจะโกนหัวสักนิด จนข้าพเจ้าได้บวช และได้พบคัมภีร์ลึกลับที่ตกทอดมาแต่สมัยพุทธกาล ใครได้เข้าถึงคัมภีร์นี้ แม้เป็นบุคคลธรรมดาตัวเปล่าเล่าเปลือย ก็อาจเป็นกษัตริย์ได้ จนเข้าใจความเป็นไปของชีวิต จนรู้ถึงว่า "ความเฮง" หรือ "ความฟลุ๊ค" ไม่มีในศาสนาพุทธ ครับ แทงทะลุถึงวิถีแห่งความร่ำรวย และที่สำคัญที่สุด คัมภีร์นี้ตอบคำถามที่สงสัยในใจมานานแล้วว่า "ชีวิตเราเกิดมาทำไม"

ครั้นทราบแล้วว่า ชีวิตเราเกิดมาทำไม จะมัวไปร่ำรวยอยู่ทำไม ครับ มันมิใช่สาระแก่นสารของชีวิต แทนที่ข้าพเจ้าจะเลือกความร่ำรวย ข้าพเจ้าจึงเลือกที่จะบวชต่อไป

แต่เนื้่อหาในคัมภีร์ใช่ว่าจะเข้าใจโดยง่าย ครับ เป็นลายแทงไปสู่ขุมทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ต้องอาศัยการตีความปริศนา ยิ่งกว่า นิโคลัส เคจ นักล่าสมบัติในหนังเรื่อง National treasure, davinci code หรือกระทั่ง เทวา กับซาตาน ที่กำลังชนโรง และแม้ตีความเคล็ดวิชาออกแล้ว ก็ยังต้องฝึกฝนอีกยาวนาน

คิดย้อนไป ต้องขอบคุณความยุ่งยากทุก ๆ วินาทีของชีวิตเลย ครับ ที่พาให้ข้าพเจ้าสุดท้ายมาพบคัมภีร์สุดยอดเล่มนี้ จักบรรยายเนื้อหาในคัมภีร์เสียตอนนี้ ก็จักยาวเกินไป ขอโพสต์ไปไขความลับปริศนาขุมทรัพย์ "ความเฮง" ใน Dhammasarokikku

 
Design by Wordpress Templates | Bloggerized by Free Blogger Templates | Web Hosting Comparisons