น่าขัน " อนัตตา "
" มันเป็นการน่าขัน ที่ไม่มีอะไรน่าขันเท่า.
น่าขัน ที่ต้องการจะให้มีตัวตนที่แท้จริงเป็นผู้หลุด
แล้วหลุดไปมีตัวตนที่แท้จริงอยู่.
ถ้าเราบอกเขาว่า "จงวางให้หมด"
เขาก็รับคำ แล้วย้อนถามเราว่า
" อ้าว ! วางหมดแล้ว ต่อจากนี้ไปจะให้ยึดอะไรอีกเล่า ?"
มันจึงน่าขัน.
หรือท่านจะเห็นเป็นอย่างไร ?
น่าขัน ที่ต้องการจะให้มีตัวตนที่แท้จริงเป็นผู้หลุด
แล้วหลุดไปมีตัวตนที่แท้จริงอยู่.
ถ้าเราบอกเขาว่า "จงวางให้หมด"
เขาก็รับคำ แล้วย้อนถามเราว่า
" อ้าว ! วางหมดแล้ว ต่อจากนี้ไปจะให้ยึดอะไรอีกเล่า ?"
มันจึงน่าขัน.
หรือท่านจะเห็นเป็นอย่างไร ?
น่าขันที่สุด ก็คือ มีการสอนว่ามี'ตัวตน'ที่แท้จริงอยู่ในเบญจขันธ์นี้ แต่มิใช่ตัวเบญจขันธ์เอง.
"ตัว" ตัวนั่นแหละ จะเป็นผู้เดินไปตามอริยมรรคและเป็นผู้หลุดพ้นออกไปมี'ตัว'อยู่อย่างบริสุทธิ์แท้จริง.
ฟังดูเถิด. ตัวหลุดไปมีตัวอยู่อย่างบริสุทธิ์แท้จริง เป็นตัวเดียวกับนิพพาน หรืออสังขตธรรม หรือโลกุตตรธรรม.
จงมองดูตัณหาอันเหนียวแน่นของคนที่กอดรัด'ตัว'เพราะต้องการตัวเถิด. เพราะปล่อยความเห็นว่า'ตัว'ออกเสียไม่ได้ จึงต้องถูกมัดติดอยู่กับหลักตออันหนึ่ง ซึ่งจะหลุดออกมาไม่ได้ เพราะความไม่สร่างแห่งความต้องการตัวของตนเอง.
"ตัว" ตัวนั่นแหละ จะเป็นผู้เดินไปตามอริยมรรคและเป็นผู้หลุดพ้นออกไปมี'ตัว'อยู่อย่างบริสุทธิ์แท้จริง.
ฟังดูเถิด. ตัวหลุดไปมีตัวอยู่อย่างบริสุทธิ์แท้จริง เป็นตัวเดียวกับนิพพาน หรืออสังขตธรรม หรือโลกุตตรธรรม.
จงมองดูตัณหาอันเหนียวแน่นของคนที่กอดรัด'ตัว'เพราะต้องการตัวเถิด. เพราะปล่อยความเห็นว่า'ตัว'ออกเสียไม่ได้ จึงต้องถูกมัดติดอยู่กับหลักตออันหนึ่ง ซึ่งจะหลุดออกมาไม่ได้ เพราะความไม่สร่างแห่งความต้องการตัวของตนเอง.
"ข้อคิดอิสระ"
พุทธทาสภิกขุ
๒๒ กันยายน ๒๔๘๕
พุทธทาสภิกขุ
๒๒ กันยายน ๒๔๘๕