วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

บันทึกลับ ภิกษุนิรนาม ๕. มีฌานหยั่งรู้ได้อย่างอัศจรรย์

20140304_111254

บันทึกลับ ภิกษุนิรนาม

๕. มีฌานหยั่งรู้ได้อย่างอัศจรรย์

การที่เป็นนักปฏิบัติ ทำให้อาจารย์อุปัชฌาย์กับอาตมารู้สึก มีความสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ เวลาเข้าไปปฏิบัติรับใช้ ต้มน้ำ ชงชาให้ท่าน บางทีก็นวดให้ท่าน ซึ่งเป็นประเพณีนิยมกันมา ท่าน ก็มักถามว่า การปฏิบัติของอาตมาเป็นอย่างไร ใครแนะนำมาก่อน หรือ ก็ได้เรียนความจริงให้ท่านทราบว่า ยังไม่มีใครแนะนำ มันรู้เองเป็นเอง อยากปฏิบัติมาตั้งแต่ ๓ ขวบ และก็ได้ปฏิบัติเรื่อยมา

ท่านก็บอกว่า "เป็นบุญวาสนาของเณร ติดต่อสืบเนื่องมาแต่ อดีต ชาติก่อนคงปฏิบัติค้างอยู่ ชาตินี้จึงมาเกิดปฏิบัติต่อ ขอให้พากเพียรพยายามให้มาก จะได้พ้นทุกข์ในชาตินี้ เณรจะมีประโยชน์แก่พระพุทธศาสนามาก"

ตอนหนึ่งท่านถามว่า "เห็นโยมผู้ชายของเณรเล่าให้ฟังว่า เณรรู้เห็นอะไรมาตั้งแต่เด็กๆ เดี๋ยวนี้ยังรู้เห็นอยู่หรือไม่"

"ยังรู้เห็นอยู่ขอรับ ตอนยังไม่ได้บวชเณร มีคนมาให้ช่วยอยู่เสมอ บางครั้งก็รำคาญ พอบวชเณรแล้ว กระผมจึงไม่ต้องการให้ใครรู้ บางครั้งเห็นเหตุการณ์จะเกิดขึ้น ก็ไม่กล้าบอก เพราะรู้แล้ว ไม่มีเวลาปฏิบัติ กระผมเห็นว่าการรู้เห็นนั้น ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์"

"ถูกต้องแล้วเณร การปฏิบัติธรรมกรรมฐานนั้น ต้องตัดช่องน้อยเอาตัวให้รอดเสียก่อน ดูพระบรมศาสดาเป็นตัวอย่าง พระองค์ตรัสรู้แล้ว จึงสอนคนอื่น เณรมาได้ไกลแล้วนะ พยายามให้มากเข้า เออ…เรามาทดสอบกันดูซิ…ตอนนี้ท่านมหาจำเริญกำลังทำอะไรอยู่"

อาตมายกมือพนมขึ้น เรียนท่านไปว่า "ท่านมหาจำเริญกำลังไม่สบายใจมาก"

"ไม่สบายใจเพราะอะไร"

"เพราะโยมพ่อมาบอกว่า น้องสาวคนเล็กถูกคนฉุดเอาไป ยัง ตามไม่พบ ตอนนี้พอสรงน้ำเสร็จ จะมาปรึกษาหลวงพ่อว่าควรทำ อย่างไร"

"เออ!…เก่งจริง แล้วน้องสาวคนเล็กจะเป็นอะไรไหม"

"ปลอดภัยแล้วขอรับ ตอนนี้กำลังอยู่บนโรงพัก เจ้าคนฉุดสองคนก็ถูกจับได้"

"ทำไมจึงถูกจับ"

"ไปเจอตำรวจสายตรวจกลางทาง น้องสาวท่านมหาร้องให้ช่วย"

พูดเพิ่งจะจบ ก็เห็นท่านมหาจำเริญเดินขึ้นมาบนกุฏิ เข้ามานั่งกราบท่านอาจารย์อุปัชฌาย์ แต่ยังไม่ทันจะพูด ท่านก็ยิ้มละมัย บอกว่า

"ท่านมหาไม่ต้องวิตก สั่งให้ใครไปบอกโยมที่บ้าน ให้ไปรับน้องสาวที่สถานีตำรวจเร็วเข้า"

"เอ๊ะ ท่านอาจารย์รู้ได้อย่างไร"

"อย่าเพิ่มถามตอนนี้ รีบๆไปเดี๋ยวจะดึกดื่น"

ท่านมหาลุกขึ้นกราบ แล้วลงกุฏิไป แต่ท่านไม่ได้ให้ใครไปบอก ท่านไปด้วยตนเอง สั่งโยมพ่อให้ชวนพรรคพวกไปสถานีตำรวจ ที่อำเภอ แล้วก็นั่งรออยู่ จนกระทั่งโยมพ่อพาน้องสาวกลับมาถึงบ้าน เอาใกล้สว่าง

กลับมาถึง ท่านมหาก็ตรงมาที่กุฏิท่านอาจารย์อุปัชฌาย์ กราบท่านแล้วกล่าวว่า

"หลวงพ่ออาจารย์รู้เรื่องน้องสาวผมไปอยู่ที่โรงพักได้อย่างไร?"

ตอนนั้น อาตมาก็อยู่ในที่นั้นด้วย เพราะไปเตรียมบาตรสำหรับ ท่านอุปัชฌาย์ออกบิณฑบาตตามกิจวัตรที่ท่านไม่เคยขาดเลย นับเป็นธุดงค์ข้อหนึ่ง ท่านชายตายิ้มๆมาที่อาตมา แล้วพูดขึ้นว่า

"ท่านมหาเอาแต่ทางปริยัติ ไม่เอาทางปฏิบัติด้วย เห็นจะเอาตัวไม่รอด อย่ามาสนใจว่ารู้ได้อย่างไร จงไปคิดดูว่า ทำอย่างไรถึงจะรู้ได้ดีกว่า บวชเข้ามาสู่เพศสมณะแล้ว ต้องพยายามให้ครบศีล สมาธิ ปัญญา จึงจะยั่งยืนในพระศาสนานี้"

พูดจบท่านก็ลุกขึ้น เตรียมครองจีวรเพื่อไปบิณฑบาต ตอนนั้นท่านมหาก็หน้าสลดลง ลุกขึ้นกราบแล้วลงจากกุฏิไป

 
Design by Wordpress Templates | Bloggerized by Free Blogger Templates | Web Hosting Comparisons