วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

เมื่อถึงคราว

pharmalai_01_1ในพระไตรปิฎกก็มีเรื่องทำนองนี้ พระเจ้าสุปปพุทธะ พระบิดาของพระนางพิมพา ทำกรรมหนักไปขวางทางเดินบิณฑบาตของพระพุทธเจ้า ด้วยความอาฆาตแค้นว่า พระองค์ทิ้งลูกสาวของตนไปบวช และทำให้พระเทวทัตพระลูกชายถูกธรณีสูบ พระพุทธองค์ทรงพยากรณ์ว่า ในวันที่เจ็ด พระบาทท้าวเธอจักถูกแผ่นดินสูบ ใกล้เชิงบันได ใต้ปราสาทของท่านเอง

พระเจ้าสุปปพุทธะผู้มีศักดิ์เป็นลุงของเจ้าชายสิทธัตถะ ได้ทราบข่าวคำพยากรณ์เช่นนั้น ก็กระหยิ่มยิ้มย่อง ถ้าเช่นนั้น เราจักไม่แวะเวียนไปแถวนั้นเด็ดขาด คราวนี้แล จักประกาศให้ก้องโลกว่า พระสมณโคดมพูดความเป็นเท็จ แล้วก็ขังตัวเองไว้บนยอดปราสาทเจ็ดชั้น ให้คนนำบันไดออก ล็อคประตูไว้ทั้งสิ้น และให้มีบุรุษรูปร่างกำยำคอยเฝ้าอยู่ประตูละ ๒ คน กำชับว่า หากพระองค์จักเสด็จลงเบื้องล่าง พวกเจ้าทั้งหลายต้องห้ามไม่ให้พระองค์ลงไป ใครบังอาจให้พระองค์ดำเนินสู่เบื้องล่าง จักประหารให้สิ้น

พอถึงวันที่เจ็ด ม้ามงคลตัวโปรดของพระองค์ก็เกิดคึกคะนอง กระแทกฝาคอกดังสนั่น ลั่นดังขึ้นไปถึงชั้นเจ็ดของปราสาท พระเจ้าสุปปพุทธะ เกิดความกระวนกระวายอยากรู้ให้ได้ว่า ม้าของพระองค์เป็นกระไร พลันลุกขึ้นผินพระพักตร์ไปทางประตู ประตูก็เปิดเองโดยพลัน บันไดก็กลับมีดังเดิมอย่างน่าอัศจรรย์ พระองค์ก็เสด็จลงมาเรื่อย ๆ เหล่าบุรุษร่างกำยำที่เฝ้าประตูอยู่ ก็พลันลืมสิ่งที่พระองค์สั่งไว้เสียสิ้น ปล่อยให้พระองค์เดินลงไปจนถึงชั้นล่างสุด ทันใดนั้นปฐพีก็แหวกออก ร่างพระองค์ก็หายลงดินไปโผล่ ณ อเวจีมหานรก

พอข้าพเจ้าทราบข่าวการมรณภาพของหลวงน้าอ๋อย ซึ่งเห็นหน้ากันอยู่หลัด ๆ ได้ข่าวว่าไปเที่ยวหัวหินเมื่อสองวันก่อน เช้ามาเป็นศพไปเสียแล้ว ก็เป็นธรรมดา ต้องไปสดับข่าวสักเล็กน้อยประสา "พระมุง" (เป็นญาติห่าง ๆ กับไทยมุง)

สำนักข่าวท่าพระนิวส์รายงานว่า ตอนเช้าหลวงน้าอ๋อย ยังเดินยิ้มแย้มมาขอให้พระผู้ใหญ่ ไปช่วยเฝ้าวิหารให้หน่อยอยู่เลย ไม่มีวี่แววของคนจักตายสักนิด พอไปถึงวัดที่อ่าวมะนาว วัดนี้ติดชายทะเล ปกติเมื่อไปถึงแล้วทุกท่านจักไปกราบเจ้าอาวาส หรือพระประธานกันก่อน แต่หลวงน้าอ๋อยไปถึงลงทะเลเลย แล้วหัวใจวายเฉียบพลัน มรณภาพ ณ ที่นั้นเอง

ไม่อาจวิเคราะห์เป็นอย่างอื่นได้ นอกจากที่นั่น คือที่ตายของท่าน คนเราพอถึงกาล จักอยากไปในสถานที่นั้นมากเป็นพิเศษ โดยมิทราบสาเหตุ

ที่น่าแปลกยิ่งกว่านั้น คือ ท่านมรณภาพก่อนวันเกิดของท่านไม่กี่วัน อีกประมาณ ๓ วัน ท่านจักอายุครบ ๕๐ บริบูรณ์

ไม่ต้องเอาอายุไปแทงหวยกันหรอกนะ เขาแทงกันไปหมดแล้ว ถูกกินเรียบ

สิ่งที่อยากจักบอก คือ เมื่อคนเรายังไม่ถึงคราวจักตาย จักตีรันฟันแทงบู๊สักแค่ไหน มันก็ไม่ตาย แต่เมื่อถึงคราว มันก็ต้องตาย ห้ามกระไรมิได้ สมดังที่เขาว่าไว้เป็นกลอนว่า

แม้นยังไม่ ถึงคราตาย วายชีวาตม์
จะพิฆาต อย่างไร ไม่อาสัญ
แต่ถ้าถึง ที่ตาย วายชีวัน
ไม่จิ้มฟัน ทิ่มเหงือก....ยังเสือกตาย !!

และความตาย ไม่มีลางบอกเหตุ ไม่มีการบอกล่วงหน้า ไม่มีอาณัติสัญญาณใด ๆ ทั้งสิ้น ขอท่านทั้งหลาย จงมีชีวิตอยู่บนความไม่ประมาททุกคนเทอญ ฯ

 
Design by Wordpress Templates | Bloggerized by Free Blogger Templates | Web Hosting Comparisons