วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

หายใจอย่างมีความสุข by Dhammasarokikku

 196105_3359609701682_1525025953_n

เป็นมา ๒ วันแล้ว ครับ ที่หายใจอย่างมีความสุข ความรู้สึกมันคล้าย ๆ เวลาเราเป็นหวัดหายใจไม่ออก อึดอัด จนต้องหายใจทางปาก แล้วมีบางจังหวะ จมูกมันโล่งขึ้นมายังไงยังงั้นเลย หายใจเข้ารู้สึกเย็น ๆ สดชื่น หายใจออก รู้สึกผ่อนคลาย หายใจเป็นแล้ว ไม่อยากทำอย่างอื่นนอกจากหายใจเลย ครับ

ปกติข้าพเจ้าเจริญอานาปานุสสติ หรือรู้ลมหายใจได้แย่มาก ครับ เนื่องจากตั้งแต่เริ่มปฏิบัติ ทำผิดมาแต่ต้น คือ ไปบังคับลม เสียจนเคยชิน ทำมาตั้งเกือบยี่สิบปี พอจะกลับลำ มาระลึกรู้เบา ๆ มันเลยทำได้ยากมาก เผลอปุ๊บมันก็คอยจะไปบังคับลม หลัง ๆ เลยตัดสินใจทิ้งลมหายใจไปเลย ครับ ไประลึกรู้อย่างอื่นแทน หนีไปเดินจงกรม กระนั้น ก็ยังกังวลเล็ก ๆ เพราะหลวงพ่อพระราชพรหมยาน สอนว่า ไม่ให้ทิ้งอานาปานุสสติ ทิ้งกองนี้กองเดียว กองอื่นก็พังหมด

385628_217426638358271_100002728081439_306535_1790593714_n มาเมื่อการออกเดินทางตามหาจิตวิญญาณ ใน Episode VI ได้มีโอกาสกลับไปปฏิบัติ เช่นในปีแรก ๆ ที่บวช คือ ฟังธรรมะไปเรื่อย ๆ ก็ฟังของหลวงพ่อปราโมทย์ ครับ รู้สึกเป็นสุขที่ได้ฟังธรรมะ และดูเหมือนจิตจะตื่นขึ้นเล็ก ๆ
พอได้ไปกราบท่าน เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๑ ท่านยืนยันว่า "ใช้ได้แล้วนะ ๒ รูปที่มาด้วยกัน" ก็รู้สึกมีความมั่นใจในการปฏิบัติมากขึ้น จากนั้นก็ได้ไปคุยกับเจ้าอาวาสวัดถ้ำหมีนอน คุยธรรมะแล้วรู้สึกเป็นสุข ท่านยืนยันว่า อานาปานุสสติ สามารถทิ้งได้ โดยไประลึกรู้อย่างอื่นแทน เกิดธรรมปีติ ยิ้มอยู่คนเดียวตลอดทางกลับกรุงเทพฯ

ครั้นกลับมากรุงเทพฯได้ ๒ วัน ก็งานเข้า พิมพ์ปฏิทินแจกกันจ้าละหวั่น ทำงานอย่างเพลิดเพลิน ตื่นแต่ตีห้า กว่าจะได้นอนก็ตีสอง โดยไม่มีเว้นวรรคไปงีบแต่อย่างใด พอเข้าวันที่ ๓ ก็รู้สึกว่า เอ๊ะ... ทำไมเราพักผ่อนน้อยลง แต่ไม่รู้สึกง่วงเหงาหาวนอน ไม่เพลีย ไม่ล้าแต่อย่างใด เข้าวันที่ ๔ มันก็ยังทำงานอย่างเมามันอยู่ เอ๊ะ... มันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ ๆ ปกติถ้าข้าพเจ้าอดนอนติด ๆ กัน แบบนี้สัก ๔-๕ วัน จะต้องป่วยอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่เจ็บคอ ก็ไอ ไม่เป็นหวัด อย่างน้อย ๆ ก็ต้องร้อนใน

พอวันที่ ๕ อาการเพลียเริ่มปรากฏ ตอนเช้าเริ่มไม่ตื่นเอง ต้องพึ่งนาฬิกาปลุก ตื่นมาแล้ว ก็ไม่สดชื่นสดใสเช่นวันที่ผ่านมา ก็เริ่มเอะใจ เอ๊ะแล้ว ๔-๕ วันก่อนมันเกิดอะไรขึ้น คิดไปคิดมาสงสัยจะเป็นธรรมปีติ ครับ ปีติถ้าเกิดขึ้นแล้ว บางทีอยู่ได้หลาย ๆ วัน บางทีเกิดขึ้นแล้ว สามารถรักษาโรคได้ แต่ปีติ ก็เหมือนสตินั่นแหละ ใช่จะบังคับให้เกิดได้ และพอบทมันจะหายไป ก็ห้ามมันไม่ได้อีกนั่นแล เพราะมันไม่ใช่ตัวตน

อาการปีติเป็นอย่างไร ท่านลองนึกถึงตอนดีใจจนน้ำตาไหลนั่นแล ประเภทคนรักที่จากกันไปนาน กลับมาให้ของขวัญ ได้รับของขวัญจากลูก หรือได้รับของขวัญที่อยากได้มาก ๆ คนที่คิดว่า จะไม่ได้เจอกันอีก กลับได้มาเจอ ได้ดูหนังดี ๆ สักเรื่อง ฉากที่มันสะเทือนใจ ขนลุกไปทั้งตัว นั่นละครับ อาการของปีติ แต่นั่นเป็นปีติที่ต้องพึ่งปัจจัยภายนอก เกิดขึ้นแป๊บ ๆ แล้วก็หายไป

537586_208401675948840_1733574205_n แต่ปีติจากกรรมฐาน หรือธรรมปีติ นี่ เกิดอยู่ได้เป็นวัน ๆ

พระบางรูปนั่งสมาธิอยู่ได้เป็นวัน ๆ เดือน ๆ ปี ๆ ก็อยู่ด้วยธรรมปีติ

พอธรรมปีติมันหายไป ก็รู้ว่า มันหายไป ไม่ได้เสียดมเสียดายอะไร ก็ยังคงเดินหน้าทำปฏิทินต่อไปอย่างเมามัน ช่วงเดินบิณฑบาต เมื่อวาน ก็ภาวนาของเราไปตามปกติ จู่ ๆ ใจมันก็เบาสบาย ขึ้นมา เอ๊ะ... เกิดอะไรขึ้น เลยลองรู้ลมหายใจดู ปรากฏว่า รู้ลมหายใจได้เบาสบาย อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่มีการบังคับลมแต่อย่างใด

หายใจเป็นแล้ว มันมีความสุขจริง ๆ ฟ่ะ

สมัยก่อนก็เคยได้ยินบ่อย ๆ ครับ ว่า นักปฏิบัติเขามีความสุขกับการหายใจ แต่ก็ไม่เข้าใจว่า มันสุขเข้าไปได้อย่างไร ปกติก็หายใจอยู่ ทุกวี่วันอยู่แล้ว ข้าพเจ้าขอยืนยัน ครับว่า หากหายใจอย่างมีสติแล้ว มันมีความสุขจริง ๆ เป็นความสุขที่อธิบายไม่ถูก

เมื่อวานนั่งทำปฏิทินจนถึงสี่ทุ่ม ครับ การทำปฏิทินมันมีหลายขั้นตอน ต้องพิมพ์ภาพ ตัดภาพ เคลือบพลาสติก เจาะรู เย็บหางปฏิทิน แต่ละขั้นตอนล้วนแต่ไม่ต้องใช้สมอง แค่เล็ง ๆ เอาให้ได้ระยะ แล้วก็ตูม ๆ ๆ ทุบมันเข้าไป หูมันว่าง ก็เลยเป็นเอ็มพีสาม หลวงพ่อปราโมทย์ไปด้วย ท่านว่า ฟังธรรมะของท่าน ไม่ต้องตั้งใจมาก ครับ ฟังแล้วอย่าคิด ฟังมันเล่น ๆ บทจะถึงสิ่งที่เราติดอยู่ จิตมันจะทำงานอัตโนมัติ ให้เราสนใจฟังขึ้นมา ทำตั้งแต่เช้าไปยันสี่ทุ่ม หลัง ๆ ทำไม่ไหว เพราะเจ็บสันมือ ที่กระแทกที่เย็บกระดาษ

คิดอยู่ว่า จะทำต่อไปให้ถึงเช้าเลยดีไหม เพราะจะแจกติด ๆ กันหลายที่ วันที่ ๒๘ เช้ามีบวงสรวงที่บ้านตลิ่งชัน ก็อยากเอาไปแจกสักร้อยชุด บ่ายไปหาหลวงตาพวง ก็อยากเอาไปแจกสักร้อยชุด แต่กว่าจะได้แต่ละร้อย ทำกันแทบมือหงิก

523597_423090264383627_1297055798_n อยากทดสอบว่า เวลาที่เราล้ามาก ๆ สติเราจะยังคงดีอยู่ไหม

คิดไปคิดมา ไม่เอาดีกว่า มันเป็นอัตตกิลมถานุโยค ทรมานร่างกายให้ลำบากเกินไป หลวงพ่อบอกว่า แนวท่านนี้เป็น สุขาปฏิปทา ขิปปาภิญญา หรือหมายถึงปฏิบัติสบาย บรรลุเร็ว อย่าอย่างงั้นอย่างงี้เลย ไปนอนดีก่า

ตื่นมา ก็ไม่แจ่มใสเท่าไหร่ ครับ เพราะร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ มีอาการเบื่อโลกเล็ก ๆ เซ็งโลกหน่อย ๆ ก็รู้สึกตัวขึ้นมาว่า "จิตกำลังเศร้าหมอง" จิตเศร้าหมองก็หายไป แต่ก็ยังไม่สดใสเท่าที่ควร คิดสงสัยว่า ดูท่าธรรมปีติ จะหมดไปแล้ว ขณะนั้นเองครับ รู้ขึ้นมาว่า "จิตกำลังสงสัย" ผลั๊วะ... หลุดเลย ครับ

กลับมาหายใจอย่างมีความสุข เหมือนเมื่อวาน เลย ปฏิบัติธรรม มีความสุขจริง ๆ ครับ ข้าพเจ้าขอเป็นพยาน

มาปฏิบัติธรรมกันดีกว่า ครับเอวังก็มีด้วยประการฉะนี้ ฯ

 
Design by Wordpress Templates | Bloggerized by Free Blogger Templates | Web Hosting Comparisons