วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ปัญหาและเฉลย ธรรมศึกษาชั้นเอก สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๔๓

_26_204

กระทู้ธรรม ธรรมศึกษาชั้นเอก

สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๔๓

วันศุกร์ ที่ ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๓

ʾھ»Ò»ÊÚÊ Í¡Ã³í ¡ØÊÅÊÚÊÙ»ÊÁÚ»·Ò

ʨԵڵ»ÃÔâ·»¹í àÍµí ¾Ø·Ú¸Ò¹ÊÒʹí.

¡ÒÃäÁè·ÓºÒ»·Ñ駻ǧ ¡ÒÃÂѧ¡ØÈÅãËé¶Ö§¾ÃéÍÁ ¡Ò÷ӨԵ

¢Í§µ¹ãËé¼èͧá¼éÇ, ó ¢é͹Õéà»ç¹¤ÓÊÑè§Ê͹¢Í§·èÒ¹¼ÙéÃÙé·Ñé§ËÅÒÂ.

¢Ø. ¸. òõ/óù.

-------------------

 

แต่งอธิบายเป็นทำนองเทศนาโวหาร อ้างสุภาษิตอื่นมาประกอบไม่น้อยกว่า ๓ ข้อ และบอกชื่อคัมภีร์ที่มาแห่งสุภาษิตนั้นด้วย ห้ามอ้างสุภาษิตซ้ำข้อกัน แต่จะซ้ำคัมภีร์ได้ไม่ห้าม สุภาษิตที่อ้างมานั้น ต้องเรียงเชื่อมความให้ติดต่อสมเรื่องกับกระทู้ตั้ง.

ชั้นนี้ กำหนดให้เขียนลงในใบตอบ ตั้งแต่ ๔ หน้า (เว้นบรรทัด) ขึ้นไป

 

-------------------

 

ให้เวลา ๓ ชั่วโมง

_23_883

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม ธรรมศึกษาชั้นเอก

สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๔๓

วันเสาร์ ที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๓

----------------------------------------

¤ÓÊÑè§ ¨§àÅ×Í¡¤ÓµÍº·Õè¶Ù¡·ÕèÊØ´à¾Õ§¤ÓµÍºà´ÕÂÇ â´Â¡Ò¡ºÒ·ã¹ªèͧ¢Í§¢éÍ

·Õèµéͧ¡Òà ŧ㹡ÃдÒɤӵͺ ãËéàÇÅÒ õð ¹Ò·Õ (ñðð ¤Ðá¹¹)

๑.

คำว่า “ นิพพิทา ” ตรงกับความในข้อใด ?

ก.

ความดับ

ข.

ความหน่ายทุกข์

ค.

ความเบื่ออาหาร

ง.

ความเบื่อหน่ายการเรียน

คำตอบ :

๒.

ผู้ใดจักระวังจิต ผู้นั้น…?

ก.

จักพ้นจากบ่วงแห่งมาร

   

ข.

จักพ้นจากความทุกข์ใจ

   

ค.

จักพ้นจากความเขลา

   

ง.

จักมีความสุขกายสุขใจ

   

คำตอบ :

๓.

รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ จัดเป็น…?

ก.

มหาภูตรูป

ข.

อุปาทายรูป

ค.

ของนอกกาย

ง.

บ่วงแห่งมาร

คำตอบ :

๔.

ผู้ใดเห็นตามเป็นจริงด้วยปัญญาว่า “ สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง ” ผู้นั้น…?

ก.

ย่อมหน่ายในทุกข์

ข.

ย่อมพ้นจากทุกข์

ค.

ย่อมหมดสิ้นทุกข์

ง.

ย่อมเมาในทุกข์

คำตอบ :

๕.

ข้อใด ไม่จัดเป็นอนัตตา ?

ก.

ขันธ์ ๕

ข.

จิต เจตสิก รูป นิพพาน

ค.

พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ง.

ไม่มีข้อใดถูก

คำตอบ :

๖.

หนาว ร้อน หิว กระหาย ปวดอุจจาระ ปวดปัสสาวะ เป็นทุกข์ประเภทไหน ?

ก.

สภาวทุกข์

ข.

ปกิณณกทุกข์

ค.

นิพัทธทุกข์

ง.

สหคตทุกข์

คำตอบ :

๗.

โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส เป็นทุกข์ประเภทไหน ?

ก.

สภาวทุกข์

ข.

ปกิณณกทุกข์

ค.

นิพัทธทุกข์

ง.

สหคตทุกข์

คำตอบ :

๘.

ข้อว่า “ เนโสหมัสมิ นั่นมิใช่เรา ” เป็นคำแสดงความของ…?

ก.

อนัตตตา

ข.

ทุกขตา

ค.

อนิจจตา

ง.

นิพพานตา

คำตอบ :

๙.

ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เป็นทุกข์ประเภทไหน ?

ก.

สภาวทุกข์

ข.

ปกิณณกทุกข์

ค.

นิพัทธทุกข์

ง.

สหคตทุกข์

คำตอบ :

๑๐.

ราคะ โทสะ โมหะ ในอาทิตตปริยายสูตร เป็นทุกข์ประเภทไหน ?

ก.

พยาธิทุกข์

ข.

สันตาปทุกข์

ค.

วิปากทุกข์

ง.

วิวาทมูลกทุกข์

คำตอบ :

๑๑.

ท่านเห็นว่า ข้อใดกล่าวผิดจากหลักพระพุทธศาสนา ?

ก.

วิมุตติที่เป็นโลกิยะ ก็มี

ข.

วิมุตติที่เป็นโลกุตตระ ก็มี

ค.

วิมุตติข้อสุดท้าย เป็นโลกุตตระ

ง.

วิมุตติข้อที่ ๖ เป็นโลกุตตระ

คำตอบ :

๑๒.

การเล็งเห็นว่า “ สังขารเป็นทุกข์ คือเป็นโทษ ” จัดเป็น…?

ก.

อาทีนวญาณ

ข.

อุทยัพพยญาณ

ค.

ภังคญาณ

ง.

นิพพิทาญาณ

คำตอบ :

๑๓.

คำว่า “ สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี ” ความสงบในที่นี้ คืออะไร ?

ก.

สงบจากเวร

ข.

สงบจากกิเลสาสวะ

ค.

สงบจากความวุ่นวาย

ง.

สงบจากสงคราม

คำตอบ :

๑๔.

คำว่า “ มีลูกศรอันถอนแล้ว ” (อัพพุฬหสัลโล) เป็นคุณบทของ…?

ก.

ความเพียร

ข.

พระสงฆ์

ค.

พระอรหันต์

ง.

พระนิพพาน

คำตอบ :

๑๕.

ผู้บรรลุอนุปาทิเสสนิพพานแล้ว ย่อมเข้าถึง…?

ก.

แดนสุขาวดี

ข.

อายตนนิพพาน

ค.

อัตตาสมบูรณ์

ง.

ความว่างเปล่า หรืออนัตตา

คำตอบ :

๑๖.

ถ้าจะเข้าใกล้พระนิพพาน ต้องทำอย่างไร ?

ก.

ต้องมีฌาน

ข.

ต้องมีปัญญา

ค.

ต้องมีญาณ

ง.

ข้อ ก. และ ข. ถูก

คำตอบ :

๑๗.

ที่เรียกว่า “ พระนิพพาน ” เพราะเหตุผลข้อใด ?

ก.

เพราะละความโลภได้

ข.

เพราะละความโกรธได้

ค.

เพราะละตัณหาได้

ง.

เพราะปล่อยวางเสียได้

คำตอบ :

๑๘.

ข้อใดเป็นคำแปลของคำว่า “ อบาย ” ?

ก.

ขวางโลก

ข.

โลกปราศจากความเจริญ

ค.

แดนแห่งความเจริญ

ง.

ตกต่ำ

คำตอบ :

๑๙.

การที่พระพุทธศาสนากล่าวเรื่องสังสารวัฏฏ์ไว้ แสดงว่า…?

ก.

นรก - สวรรค์ มีอยู่จริง

ข.

ข่มขู่ชาวโลกให้กลัว

ค.

ให้ความหวังแก่คนตกทุกข์

ง.

นรกคือคุก สวรรค์คือสถานเริงรมย์

คำตอบ :

๒๐.

คำว่า “ เปรต ” ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด ?

ก.

ผู้ละโลกนี้ไปแล้ว

ข.

ภูมิของสัตว์ผู้มีบาปกรรม

ค.

มีปรากฏในพระไตรปิฎก

ง.

ถูกทุกข้อ

คำตอบ :

๒๑.

ข้อใด เป็นความหมายของสมถกัมมัฏฐาน ?

ก.

การถือธุดงค์

ข.

การเข้าป่าหาวิเวก

ค.

ฐานแห่งการทำใจให้สงบ

ง.

อารมณ์ต่าง ๆ

คำตอบ :

๒๒.

กสิณ ๑๐ นั้น มีความสำคัญอยู่ที่ข้อใด ?

ก.

การภาวนา

ข.

การเพ่งบริกรรม

ค.

การพิจารณา

ง.

การตัดสิน

คำตอบ :

๒๓.

อสุภ ๑๐ ว่าด้วยเรื่องใด ?

ก.

การพิจารณาซากศพ

ข.

การพิจารณาความงาม

ค.

การเพ่งดูพยับแดด

ง.

การภาวนาพุทธคุณ

คำตอบ :

๒๔.

คำว่า “ มรรค ” ในพระบาลีว่า “ àÍàÊÇ Á¤Ú⤠¹µÚ¶Ú␠·ÊÚʹÊÚÊ ÇÔÊØ·Ú¸ÔÂÒ ”

หมายถึง…?

ก.

มรรค ๔

ข.

สัคคมรรค ทางไปสวรรค์

ค.

อปายมรรค ทางไปอบาย

ง.

มรรค ๘

คำตอบ :

๒๕.

อุปสมานุสสติ ท่านให้ระลึกถึงอะไร ?

ก.

อรัญราวป่า

ข.

พระนิพพาน

ค.

คุณความดี

ง.

อุปมาอุปมัย

คำตอบ :

๒๖.

การเจริญมรณัสสติ จะได้อะไร ?

ก.

ได้ความกล้าหาญ

ข.

ได้ความไม่ประมาท

ค.

ได้มนุษยสมบัติ

ง.

ได้ความวางเฉย

คำตอบ :

๒๗.

“ ขอสัตว์ทั้งหลาย จงพ้นจากทุกข์เถิด ” เนื้อความนี้ตรงกับข้อใด ?

ก.

อานาปานสติ

ข.

เมตตาพรหมวิหาร

ค.

กรุณาพรหมวิหาร

ง.

มุทิตาพรหมวิหาร

คำตอบ :

๒๘.

ท่านให้พิจารณาอาหารโดยความเป็นของปฏิกูล เพื่ออะไร ?

ก.

เพื่อเห็นใจคนยากจน

ข.

เพื่อความไม่มีโรค

ค.

เพื่อความไม่ยินดีติดใจในรส

ง.

เพื่อเห็นความจริงตามธรรมชาติ

คำตอบ :

๒๙.

จตุธาตุววัตถานนั้น ท่านให้กำหนดอะไร ?

ก.

กำหนดโลกธาตุ

ข.

กำหนดธาตุ ๑๘

ค.

กำหนดรูปธาตุ

ง.

กำหนดรูปกาย โดยความเป็นธาตุ ๔

คำตอบ :

๓๐.

สมถกัมมัฏฐานนั้นมี…?

ก.

การภาวนาเป็นกิจ

ข.

อารมณ์ภาวนา ๔๐

ค.

ความสงบใจเป็นผล

ง.

ถูกทุกข้อ

คำตอบ :

๓๑.

คำว่า “ วิปัสสนา ” ตรงกับความในข้อใด ?

ก.

ปัญญาเห็นตามความเป็นจริง

ข.

ปัญญาอันติดตัวมาแต่กำเนิด

ค.

ความรู้แจ้งตำราทุกแขนง

ง.

ความรู้แจ้งในพุทธภาวะ

คำตอบ :

๓๒.

ความเป็นของไม่เที่ยง ปรากฏที่ไหน ?

ก.

ที่สังขารทั้งปวง

ข.

ที่อัตตาทั้งปวง

ค.

ที่ธรรมทั้งปวง

ง.

ถูกทุกข้อ

คำตอบ :

๓๓.

ท่านให้เราเจริญวิปัสสนา เพื่ออะไร ?

ก.

เพื่อความสงบกาย

ข.

เพื่อความสงบใจ

ค.

เพื่อถอนความถือมั่นด้วยตัณหา

ง.

เพื่อถอนอนัตตาออกไป

คำตอบ :

๓๔.

ข้อใด จัดเป็นอนิจจลักษณะ ?

ก.

ของไม่เที่ยง

ข.

ภาวะไม่เที่ยง

ค.

เครื่องหมายให้กำหนดรู้ว่าไม่เที่ยง

ง.

ผลอันเกิดจากความไม่เที่ยง

คำตอบ :

๓๕.

วิปัสสนา คือปัญญาอันแจ้งชัด เห็นอรรถ เห็นธรรมตามเป็นจริงนั้น เห็นอย่างไร ?

ก.

เห็นกำหนดอริยสัจ ๔

ข.

เห็นกำหนดสามัญญลักษณะ ๓

ค.

เห็นกำหนดสติปัฏฐาน ๔

ง.

เห็นกำหนดมรรค ๘

คำตอบ :

๓๖.

ป้ญญารู้ความเกิดขึ้น และความเสื่อมไปแห่งขันธ์ทั้งหลาย ชื่อว่า…?

ก.

อุทยัพพยญาณ

ข.

ภังคานุปัสสนาญาณ

ค.

ปฏิสังขานุปัสสนาญาณ

ง.

สังขารุเปกขาญาณ

คำตอบ :

๓๗.

ชีวิตมนุษย์ เหมือนหยาดน้ำค้าง หมายความว่า…?

ก.

ชีวิตนี้สุขสดใส

ข.

ชีวิตนี้จะอยู่ไม่นาน

ค.

ชีวิตนี้มาจากที่สูง

ง.

ชีวิตนี้ไม่มีร่องรอย

คำตอบ :

๓๘.

ชีวิตเหมือนโคที่เขาจะฆ่า หมายความว่า…?

ก.

ชีวิตนี้มีแต่ทุกข์

ข.

ชีวิตนี้ใกล้ต่อความตาย

ค.

ชีวิตนี้ไม่ต่างอะไรจากโค

ง.

ชีวิตนี้แม้เป็นอยู่ ก็เหมือนตายแล้ว

คำตอบ :

๓๙.

ชีวิตนี้เที่ยงแท้ จัดเป็น…?

ก.

ธรรมวิปัลลาส

ข.

สัญญาวิปัลลาส

ค.

จิตตวิปัลลาส

ง.

ทิฏฐิวิปัลลาส

คำตอบ :

๔๐.

ข้อใด จัดเป็นทิฏฐิวิปัลลาส ?

ก.

เห็นสิ่งที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง

ข.

เห็นสิ่งที่เป็นทุกข์ว่าสุข

ค.

เห็นสิ่งไม่งามว่างาม

ง.

ถูกทุกข้อ

คำตอบ :

๔๑.

สมเด็จพระบรมศาสดาจารย์ ทรงประทานพระธรรมเทศนาอะไร เพื่อถอนวิปัลลาส ?

ก.

ปัญญากถา

ข.

กสิณ ๑๐

ค.

สัญญา ๓ ประการ

ง.

อนุสสติ ๑๐

คำตอบ :

๔๒.

การพิจารณาลมหายใจเข้าออก เพื่ออะไร?

ก.

เพื่อให้รู้เท่าทัน

ข.

เพื่อให้เห็นสวรรค์

ค.

เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ

ง.

เพื่อให้เห็นทุกสิ่งทุกอย่าง

คำตอบ :

๔๓

เวลาก้าวเดิน ต้องใช้ธรรมข้อใด ?

ก.

ความรู้สึกตัว

ข.

ความจำได้

ค.

ความสงบระงับกาย

ง.

ความเห็นกองลม

คำตอบ :

๔๔.

ปฐวีธาตุมีอยู่ในกายนี้ จัดอยู่ใน…?

ก.

อานาปานบัพพะ

ข.

อิริยาปถบัพพะ

ค.

ปฏิกูลบัพพะ

ง.

ธาตุบัพพะ

คำตอบ :

๔๕.

การพิจารณาเห็นกายให้เหมือนซากศพ จัดอยู่ใน…?

ก.

อิริยาปถบัพพะ

ข.

ปฏิกูลบัพพะ

ค.

ธาตุบัพพะ

ง.

นวสีวถิกาบัพพะ

คำตอบ :

๔๖.

เมื่อลิ้มของอร่อย จะเจริญวิปัสสนาอย่างไร ?

ก.

ให้คิดว่าไม่อร่อย

ข.

ให้รู้ชัดสุขเวทนา

ค.

ให้รู้สึกว่าเฉย ๆ

ง.

ให้รู้สึกว่าน่าเบื่อ

คำตอบ :

๔๗.

คิดถึงคนรัก เกิดความสุขใจ ตรงกับ…?

ก.

สุขเวทนามีอามิส

ข.

สุขเวทนาไม่มีอามิส

ค.

เห็นกายานุปัสสนา

ง.

ถูกทุกข้อ

คำตอบ :

๔๘.

ความรู้สึกว่าจิตเรามีราคะ จัดเป็น…?

ก.

สุขเวทนา

ข.

เวทนานุปัสสนา

ค.

จิตตานุปัสสนา

ง.

ไม่มีข้อถูก

คำตอบ :

๔๙.

สมาหิตจิต หมายถึงข้อใด ?

ก.

จิตมีปัญญา

ข.

จิตปราศจากราคะ

ค.

จิตมีสมาธิ

ง.

จิตมีความหดหู่

คำตอบ :

๕๐.

ข้อใด ไม่จัดเข้าในธรรมานุปัสสนา ?

ก.

กามฉันท์

ข.

ตัณหา

ค.

อายตนะ ๖

ง.

ไม่มี

คำตอบ :

               

_11_679

ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธานุพุทธประวัติ ธรรมศึกษาชั้นเอก

สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๔๓

วันเสาร์ ที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๓

----------------------------------------

¤ÓÊÑè§ ¨§àÅ×Í¡¤ÓµÍº·Õè¶Ù¡·ÕèÊØ´à¾Õ§¤ÓµÍºà´ÕÂÇ â´Â¡Ò¡ºÒ·ã¹ªèͧ¢Í§¢éÍ

·Õèµéͧ¡Òà ŧ㹡ÃдÒɤӵͺ ãËéàÇÅÒ õð ¹Ò·Õ (ñðð ¤Ðá¹¹)

๑.

ประเทศอินเดีย อยู่ทางทิศใดของประเทศไทย ?

ก.

ทิศปัจฉิม

ข.

ทิศพายัพ

ค.

ทิศบูรพา

ง.

ทิศทักษิณ

คำตอบ :

๒.

ข้อใด กล่าวผิดเกี่ยวกับราชวงศ์ศากยะ ?

ก.

วงศ์ศากยะ ปกครองสักกชนบท

   

ข.

พระเจ้าชัยเสนะ เคยเป็นกษัตริย์ในราชวงศ์นี้

   

ค.

พระเจ้าสีหหนุ ไม่ได้อยู่ในราชวงศ์นี้

   

ง.

เจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติในราชวงศ์นี้

   

คำตอบ :

๓.

ชนชาวชมพูทวีป นับถือศาสนาอะไรเป็นพื้น ?

ก.

ศาสนาฮินดู

ข.

ศาสนาเชน

ค.

ศาสนาพุทธ

ง.

ศาสนาพราหมณ์

คำตอบ :

๔.

บุคคลในข้อใด ที่ทำนายพระลักษณะของพระมหาบุรุษ เป็นคนแรก ?

ก.

อสิตดาบส

ข.

อุทกดาบส

ค.

กบิลดาบส

ง.

อาฬารดาบส

คำตอบ :

๕.

เจ้าชายสิทธัตถะมีน้องร่วมพระราชบิดา คือใคร ?

ก.

นันทกุมาร - ยโสธรากุมารี

ข.

นันทกุมาร - โรหิณีกุมารี

ค.

นันทกุมาร - กัญจนากุมารี

ง.

นันทกุมาร - รูปนันทากุมารี

คำตอบ :

๖.

ทุกรกิริยาที่พระมหาโพธิสัตว์ ทรงบำเพ็ญวาระที่ ๒ คืออะไร ?

ก.

กดพระทนต์ด้วยพระทนต์

ข.

อดพระกระยาหาร

ค.

กลั้นลมอัสสาสะ ปัสสาสะ

ง.

ยืนขาเดียวเหนี่ยวกินลม

คำตอบ :

๗.

พวกพราหมณ์ปัญจวัคคีย์ หนีพระมหาโพธิสัตว์ไปอยู่ที่ไหน ?

ก.

ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน - เมืองราชคฤห์

   

ข.

ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน - เมืองพาราณสี

   

ค.

ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน - เมืองไพสาลี

   

ง.

ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน - เมืองสาวัตถี

   

คำตอบ :

๘.

วิชชา ๓ ที่พระมหาโพธิสัตว์บรรลุนั้น ข้อที่ ๓ คืออะไร ?

ก.

ระลึกชาติของตนเองได้

ข.

ทำกิเลสาสวะให้สิ้น

ค.

ระลึกชาติของสรรพสัตว์

ง.

ได้ทิพยจักษุ

คำตอบ :

๙.

บทพระพุทธคุณที่ว่า “ อะระหัง ” เป็นผู้ไกลนั้น หมายถึงอะไร ?

ก.

ไกลจากทุกข์

ข.

ไกลจากภพชาติ

ค.

ไกลจากอาสวะกิเลส

ง.

ไกลจากอุปาทาน

คำตอบ :

๑๐.

อุทานว่า “ ธรรมทั้งหลาย ปรากฏแก่พราหมณ์ผู้เพียรเพ่งอยู่ ” ธรรมทั้งหลาย หมายถึงอะไร ?

ก.

อริยสัจ ๔

ข.

โพชฌงค์ ๗

ค.

มรรคมีองค์ ๘

ง.

อนุปุพพวิหารธรรม ๙

คำตอบ :

๑๑.

อุบาสกเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในพระพุทธศาสนา ในคราวที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ที่ไหน ?

ก.

ต้นอชปาลนิโครธ

ข.

ต้นมุจลินท์

ค.

ต้นพระศรีมหาโพธิ์

ง.

ต้นราชายตนะ

คำตอบ :

๑๒.

ข้อปฏิบัติทางกลางนั้น หมายถึงอะไร ?

ก.

อริยสัจ ๔

ข.

โพชฌงค์ ๗

ค.

มรรคมีองค์ ๘

ง.

อนุปุพพวิหารธรรม ๙

คำตอบ :

๑๓.

พระดำรัสที่ว่า “ เราได้ตรัสรู้อมฤตธรรม ” ตรัสแก่ใคร ?

ก.

ชฎิล ๓ พี่น้อง

ข.

ยสกุลบุตร กับสหาย

ค.

ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕

ง.

พระราชาพิมพิสาร พร้อมทั้งบริวาร

คำตอบ :

๑๔.

คำว่า “ ผู้ได้ธรรมจักษุ ” หมายถึงพระอริยบุคคลชั้นใด ?

ก.

พระโสดาบัน

ข.

พระสกทาคามี

ค.

พระอนาคามี

ง.

พระอรหันต์

คำตอบ :

๑๕.

ในอนัตตลักขณสูตร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสิ่งใดว่า “ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา” ?

ก.

ไตรลักษณ์

ข.

ขันธ์ ๕

ค.

สามัญญลักษณ์

ง.

นิวรณ์ ๕

คำตอบ :

๑๖.

พระพุทธเจ้าให้การอุปสมบทแก่พระอัญญาโกณฑัญญะ ด้วยพระวาจาว่าอย่างไร ?

ก.

เธอจงถึงไตรสรณคมน์

ข.

พระวาจาที่ตั้งญัตติครบที่ ๔

ค.

เธอจงเป็นภิกษุมาเถิด

ง.

ถูกทุกข้อ

คำตอบ :

๑๗.

อนุปุพพีกถา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสพรรณนาเรื่องอะไรเป็นเรื่องแรก ?

ก.

การรักษาศีล

ข.

การออกบวช

ค.

การให้

ง.

การเจริญภาวนา

คำตอบ :

๑๘.

คำว่า “ เตวาจิกอุปาสก ” หมายถึงใคร ?

ก.

บิดาของพระอัญญาโกณฑัญญะ

ข.

บิดาของพระสารีบุตร

ค.

บิดาของพระยสะ

ง.

บิดาของพระโมคคัลลานะ

คำตอบ :

๑๙.

พระพุทธองค์ทรงส่งพระสาวกไปประกาศพระศาสนา ในคราวแรกกี่องค์ ?

ก.

๕๐ องค์

ข.

๕๕ องค์

ค.

๖๐ องค์

ง.

๗๐ องค์

คำตอบ :

๒๐.

พระเจ้าแผ่นดินของแคว้นมคธ ทรงพระนามว่าอย่างไร ?

ก.

พระเจ้าพิมพิสาร

ข.

พระเจ้าปเสนทิโกศล

ค.

พระเจ้าสุทโธทนะ

ง.

พระเจ้าอัญชนะ

คำตอบ :

๒๑.

ภัททวัคคีย์ ๓๐ คน พบพระพุทธเจ้าที่ไหน ?

ก.

ป่าไผ่

ข.

ไร่ฝ้าย

ค.

สวนตาลหนุ่ม

ง.

ไม่มีข้อถูก

คำตอบ :

๒๒.

วัดที่พระเจ้าพิมพิสารถวาย มีชื่อว่าอะไร ?

ก.

วัดเชตวัน

ข.

วัดเวฬุวัน

ค.

วัดชีวกัมพวัน

ง.

วัดบุพพาราม

คำตอบ :

๒๓.

ใครนัดหมายกันไว้ว่า “ ผู้ใดบรรลุธรรมวิเศษก่อนจักบอกแก่กัน ” ?

ก.

ยสกุลบุตร กับสหาย

ข.

ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕

ค.

ชฎิล ๓ พี่น้อง

ง.

อุปติสสะ กับโกลิตะ

คำตอบ :

๒๔.

อุปติสสปริพาชกได้ฟังธรรมจากใคร จึงได้ดวงตาเห็นธรรม ?

ก.

พระพุทธเจ้า

ข.

โกลิตะ

ค.

พระอัสสชิ

ง.

พระอัญญาโกณฑัญญะ

คำตอบ :

๒๕.

คำว่า “ เราจักไม่ชูงวง ไปสู่ตระกูล ” พระพุทธเจ้าตรัสแก่ใคร ?

ก.

พระมหากัสสปะ

ข.

พระอนุรุทธะ

ค.

พระภัททิยะ

ง.

พระมหาโมคคัลลานะ

คำตอบ :

๒๖.

พระสารีบุตร สำเร็จพระอรหันต์ที่ไหน ?

ก.

ถ้ำสุกรขาตา

ข.

บ้านกัลลวาลมุตตคาม

ค.

วัดเวฬุวัน

ง.

ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน

คำตอบ :

๒๗.

ทีฆนขปริพาชก ทูลสรรเสริญพระธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้าว่าอย่างไร ?

ก.

ดุจดวงตะวันส่องโลก

ข.

บริสุทธิ์ดุจดวงจันทร์

ค.

ดุจบุคคลหงายของที่คว่ำ

ง.

ดุจธรรมโอสถ

คำตอบ :

๒๘.

พระพุทธองค์ทรงยกย่องพระสาวกรูปใดว่า มีธรรมเป็นเครื่องอยู่เสมอด้วยพระองค์ ?

ก.

พระอัญญาโกณฑัญญะ

ข.

พระอานนท์

ค.

พระมหากัสสปะ

ง.

พระอุบาลี

คำตอบ :

๒๙.

หัวหน้ามาณพ ๑๖ คนที่ไปทูลถามปัญหากับพระพุทธองค์ คือใคร ?

ก.

ปิงคิยมาณพ

ข.

ติสสเมตเตยยมาณพ

ค.

โมฆราชมาณพ

ง.

อชิตมาณพ

คำตอบ :

๓๐.

โมฆราชมาณพ เป็นศิษย์ของใคร ?

ก.

พาวรีพราหมณ์

ข.

วังคันตพราหมณ์

ค.

สัญชัยปริพาชก

ง.

อสิตดาบส

คำตอบ :

๓๑.

มาณพทั้ง ๑๖ คน ใครบรรลุธรรมช้ากว่าเพื่อน ?

ก.

โมฆราช

ข.

ปิงคิยะ

ค.

อุทยะ

ง.

โปสาละ

คำตอบ :

๓๒.

พระอุปัชฌาย์รูปแรกที่ให้กุลบุตรบวชด้วยวิธีญัตติจตุตถกรรม คือใคร ?

ก.

พระมหาโมคคัลลานะ

ข.

พระสารีบุตร

ค.

พระอานนท์

ง.

พระพุทธเจ้า

คำตอบ :

๓๓.

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสรรเสริญพระราธะว่า เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในด้านใด ?

ก.

เทศนา

ข.

มีปัญญามาก

ค.

ธุดงค์

ง.

มีปฏิภาณ

คำตอบ :

๓๔.

พระเจ้าสุทโธทนะ ทรงส่งใครไปเชิญเสด็จพระพุทธเจ้ามายังกรุงกบิลพัสดุ์ ?

¡.

¡ÒÌØ·ÒÂÕÍÓÁÒµÂì

¢.

©Ñ¹¹ÍÓÁÒµÂì

¤.

¡Ñ¨¨Ò¹»ØâÃËÔµ

§.

¹Ñ¹·¡ØÁÒÃ

คำตอบ :

๓๕.

ใครที่ออกบวช โดยไม่คิดจะบวชมาก่อน ?

ก.

ปัญจวัคคีย์

ข.

พระสารีบุตร

ค.

พระนันทะ

ง.

ปิปผลิมาณพ

คำตอบ :

๓๖.

พระศาสดาทรงรับสั่งพระสาวกรูปใด ให้บวชพระราหุลกุมาร ?

ก.

พระมหากัสสปะ

ข.

พระสารีบุตร

ค.

พระปุณณมันตานีบุตร

ง.

พระมหากัจจายนะ

คำตอบ :

๓๗.

พระศาสดาทรงยกย่องพระราหุลว่า เลิศทางไหน ?

ก.

ปรารภความเพียร

ข.

ธรรมกถึก

ค.

ใคร่ต่อการศึกษา

ง.

ทิพยจักษุ

คำตอบ :

๓๘.

ใครสอนการงานของผู้อยู่ครองเรือนให้อนุรุทธศากยกุมาร ?

ก.

อมิโตทนศากยะ

ข.

โธโตทนศากยะ

ค.

มหานามศากยะ

ง.

สุกโกทนศากยะ

คำตอบ :

๓๙.

ผู้ที่ออกบวชพร้อมพระอนุรุทธะ มีทั้งหมดกี่คน ?

ก.

๕ คน

ข.

๗ คน

ค.

๙ คน

ง.

๑๑ คน

คำตอบ :

๔๐.

เหตุใด เจ้าศากยะจึงให้อุบาลีช่างกัลบกบวชก่อน ?

ก.

เพื่อกราบไหว้บูชา

ข.

เพื่อลุกขึ้นต้อนรับ

ค.

เพื่อละการถือตัวว่าเป็นเจ้าศากยะ

ง.

เพื่อประนมมือไหว้

คำตอบ :

๔๑.

พระอานนทเถระบรรลุโสดาบัน เพราะฟังโอวาทจากใคร ?

ก.

พระพุทธเจ้า

ข.

พระสารีบุตร

ค.

พระปุณณมันตานีบุตร

ง.

พระอัสสชิ

คำตอบ :

๔๒.

พระเถระรูปใด มักเปล่งอุทานว่า “ สุขหนอ สุขหนอ ” ?

ก.

พระอานนท์

ข.

พระอุรุเวลกัสสปะ

ค.

พระอุบาลี

ง.

พระภัททิยะ

คำตอบ :

๔๓

พระเถระรูปใด ชอบตรึกถึงธรรมที่พระมหาบุรุษตรึก ?

ก.

พระอัญญาโกณฑัญญะ

ข.

พระปุณณมันตานีบุตร

ค.

พระอนุรุทธะ

ง.

พระสารีบุตร

คำตอบ :

๔๔.

พระเถระรูปใดเดินจงกรมจนเท้าแตก ก็ยังไม่ได้บรรลุธรรม ?

ก.

พระโสณโกฬิวิสะ

   

ข.

พระรัฐบาล

   

ค.

พระโสณกุฏิกัณณะ

   

ง.

พระมหากัจจายนะ

   

คำตอบ :

๔๕.

พระสาวกรูปใด มารดาบิดาจำใจต้องให้บวช ?

ก.

พระรัฐบาล

   

ข.

พระมหากัสสปะ
   

ค.

พระยสะ

   

ง.

พระอานนท์

   

คำตอบ :

๔๖.

ธรรมุทเทศ ๔ ข้อ ใครแสดงแก่ใคร ?

ก.

พระสารีบุตร - พระเจ้าพิมพิสาร

   

ข.

พระอานนท์ - พระเจ้าปเสนทิโกศล
   

ค.

พระรัฐบาล - พระเจ้าโกรัพยะ

   

ง.

พระมหากัจจายนะ - พระเจ้าจัณฑปัชโชต

   

คำตอบ :

๔๗.

พระนางปชาบดีโคตมี ทูลขอบวชเป็นภิกษุณีต่อพระพุทธเจ้าที่ไหน ?

ก.

นิโครธาราม

ข.

เวฬุวัน

ค.

เชตวัน

ง.

เมืองเวสาลี

คำตอบ :

๔๘.

การสังคายนา คืออะไร ?

ก.

ทำการร้อยกรองพระวินัย

ข.

การตรวจสอบพระธรรม

ค.

ประชุมชำระพระธรรมวินัย

ง.

ถูกทุกข้อ

คำตอบ :

๔๙.

อะไรเป็นเหตุ แห่งการทำตติยสังคายนา ?

ก.

การจ้วงจาบพระธรรมวินัย

ข.

การทะเลาะวิวาทกัน

ค.

การบัญญัติวัตถุ ๑๐ ประการ

ง.

เดียรถีย์ปลอมบวชเพื่อลาภผล

คำตอบ :

๕๐.

ข้อใด ไม่เป็นปัญจมหาวิโลกนะ ?

ก.

สกุล

ข.

ประเทศ

ค.

มารดา

ง.

สัปปายะ

คำตอบ :

 
Design by Wordpress Templates | Bloggerized by Free Blogger Templates | Web Hosting Comparisons