หลายวันก่อนได้อ่านหนังสือพิมพ์เขียนเกี่ยวกับเทศกาลบ้องไฟพญานาคตอนออกพรรษา แถวจังหวัดหนองคาย แล้วก็อธิบายว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างหนึ่ง เกิดจากการสะสมตัวของก๊าซมีเทนใต้แม่น้ำโขง
เผอิญได้ไปดูคลิปการบรรยายเรื่อง pseudoscience (วิทยาศาสตร์เทียม) ของผู้เปิดโปง จีที200 แห่งห้องหว้ากอ เว็บพันธุ์ทิพย์อันโด่งดัง เขาว่าคำอธิบายเหล่านี้เป็นหนึ่งใน pseudoscience เพราะยังไม่เคยพบก๊าซใดในโลกมีพฤติกรรมดังกล่าว ก๊าซมีเทนถ้าผุดขึ้นมาจริง ก็จะกระจายตัวฟุ้งไปในอากาศ ถ้ามีสะเก็ดไฟก็อาจลุกติดพรึ่บ แต่ก็แวบเดียว ไม่มีทางประพฤติรวมตัวกันแล้วลุกเป็นลูกไฟพุ่งไปในอากาศแน่นอน
เลยนึกไปถึงคำของครูบาอาจารย์ที่ได้ฟังมานานแล้ว แต่ไม่กล้านำมาเล่าต่อเกรงจะเกิดการปรามาสกันขึ้น และข้าพเจ้าก็ไม่เคยเห็นบั้งไฟพญานาคด้วยตาตนเอง
วันนี้มีพยานที่น่าเชื่อถือยืนยันว่า นี่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมชาติ และวิทยาศาสตร์ปัจจุบันยังอธิบายไม่ได้ ก็เลยเกิดอยากเล่าให้ฟัง
ครูบาอาจารย์ท่านนี้มักเล่าอดีตของท่านเป็นนิทาน ท่านว่าโดยอุปนิสัยท่านเป็นคนปากไม่ดี ช่างจับผิด โดยเฉพาะชอบจับผิดพระ ว่าพระ ตำหนิพระ (ด้วยความที่เป็นคนศึกษามาก รู้มาก) แต่ไม่ถึงขั้นด่าพระ (ถ้าด่าพระนี่ไปเจอพระอริยะเข้า ตกนรกถ่ายเดียว) ทีนี้พระรูปไหนดีรูปไหนไม่ดี ดูแค่จริยาภายนอกไม่รู้นี่ ไม่รู้ว่าใจท่านคิดอะไรท่านถึงแสดงออกแบบนั้น พออีตอนตายจิตไปจับกรรมตรงนั้นเข้า วับ!ไปเกิดเป็นพญานาคเลย
ท่านว่า ตอนแรก ๆ ตื่นมาก็งง ๆ ไม่ทราบว่าตัวเองป่วยเป็นอะไร รู้แต่ตามผิวกายเป็นเกล็ด ๆ เวลาไปไหนมาไหนก็ไม่ได้เดิน ไม่ได้เลื้อยไป แค่นึกจะไปทางไหน มันก็เคลื่อนไปอย่างใจนึก เวลาเที่ยวไปในทะเล น้ำแหวกเป็นทาง อย่างกับเล่นเจ็ทสกี สนุก สนานท่องเที่ยวอยู่พักใหญ่ ๆ ก็เริ่มเบื่อ ท่านก็ออกเดินทางเสาะแสวงหาใครจะบอกได้ว่าท่านเป็นโรคอะไร ทำอย่างไรถึงจะหายจากโรคนี้ จนไปเจอดาบสองค์หนึ่ง
ดาบสก็ชี้แจงให้ฟังว่าเธอมาเกิดเป็นพญานาคด้วยกรรมอย่างนี้ ๆ รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ตั้งใจใหม่ว่าจะไม่ทำอีก แต่ก็ยังไม่พ้นจากสภาพพญานาค จึงถามดาบสว่า ทำอย่างไรจึงจักพ้นไปจากสภาพนี้ ท่านดาบสก็แนะว่า ให้รักษาศีลทำสมาธิไปตลอดช่วงเข้าพรรษาไปครบ ๑ พรรษาก็จะพ้นเอง
ครูบาอาจารย์ท่านนี้ก็พยายามนั่งสมาธิอยู่หลายปีครับ ทำได้ดีมาตลอด แต่พอใกล้ออกพรรษา มันจะมีอาการร้อนในปาก ไม่อาจเข้าสมาธิได้เลย พอออกพรรษาทีไรก็ต้องพ่นไฟขึ้นฟ้า (อย่างที่เรารู้จักกันในนามบั้งไฟพญานาคนั่นเอง) สมาธิกระเจิดกระเจิง เป็นอยู่อย่างนี้หลายร้อยหลายพันปี ทำอย่างไรก็รวมสมาธิในช่วงออกพรรษาไม่ได้
นิทานเรื่องนี้จำตอนจบได้ไม่แม่น (ซึ่งเป็นตอนที่ท่านพ้นจากความเป็นพญานาค) เดี๋ยวขอไปค้นไฟล์ในเครื่องแล้วมาต่อตอน ๒ ครับ
เจริญธรรม ฯ